In My Memories [EunHyuk]>>[DongHae] - In My Memories [EunHyuk]>>[DongHae] นิยาย In My Memories [EunHyuk]>>[DongHae] : Dek-D.com - Writer

    In My Memories [EunHyuk]>>[DongHae]

    เรื่องเล่าจากความรู้สึก..จากคนหนึ่งถึงคนอีกคน

    ผู้เข้าชมรวม

    2,196

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.19K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.พ. 53 / 22:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคนๆหนึ่งจริงๆ

    คุณจะเชื่อมั้ย?

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ชั้น ม.5 เทอม2
       
      ครึ่งเทอมได้แล้วครับ...ที่ผมไม่เจอกับรุ่นพี่ฮัน...ผมแอบชอบรุ่นพี่ฮันมา 2 ปีแล้วครับ จริงๆต้องบอกว่าปลื่มมากกว่าครับ พี่เค้าเป็นนักกีฬาโรงเรียนที่นิสัยดีมากๆ ไม่ทำตัวหยิ่งเหมือนคนอื่นๆ (ไม่รู้ซิผมคิดอย่างนี้อ่ะ) รุ่นพี่ฮันเป็นเพื่อนกับพี่ของผม แต่ตอนนี้พี่เค้าจบไปแล้ว...จากนั้นผมก็ไม่มองใครอีกเลย
       
      จริงๆเราเปิดเรียนได้หลายวันแล้ว...แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เรียนวิชาเลข พวกเราจะสลับคู่นั่งเรียนกันบ่อยๆครับ แล้ววิชานี้จะนั่งกันยังไงล่ะ ผมยังไม่ได้คุยกะเพื่อนๆเลย  ระหว่างที่เรานั่งรออยู่หน้าห้องกันนั้น
       
      ฮยอก...ฮยอก...ฮยอกนั่งกับใครอ่ะ ด๊องยังไม่มีเพื่อนนั่งด้วยเลยอ่ะ ทงเฮ หรือด๊อง เดินมาถามผม
      อืม..ยังไม่รุเลย..เด๋วนะ แล้วผมก็เดินไปถามเพื่อนๆ หลังจากตกลงตำแหน่งที่นั่งกันเรียบร้อย ผมจึงกลับมา
      งั้นเด๋วเราไปนั่งเป็นเพื่อนด๊องแล้วกันนะ ตอนนั้นผมก็งงตัวเองเหมือนกัน...เพราะผมก็ไม่ได้สนิทกับด๊องมากนัก...และบวกกับผมตำแหน่งที่ด๊องนั่งมันคือหลังห้อง...แต่ผมสายตาสั้นเนี่ยซิ..แต่ช่างเถอะคงไม่เลวร้ายนักหรอก
       
      คาบแรกของคณิตศาสตร์มันไม่เลวร้ายอะไร...ซ้ำยังทำให้ผมได้คุยกับด๊องมากขึ้น..ผมไม่แปลกใจเลย..ที่ทำไมเพื่อนในห้องผมชอบด๊องหลายคน...แต่ด๊องเค้ามีแฟนแล้วหล่ะครับเป็นรุ่นน้องชื่อ คิม คิบอม ได้ข่าวว่าคบๆเลิกๆกันมานานแระ แต่มันเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากรู้หรอก
       
      จากนั้นเราก็เกือบกลายเป็นคู่หูปาท่องโก๋ ประมาณว่า ด๊องอยู่ไหนฮยอกอยู่นั้นหรือไม่ก็ เจอฮยอกที่ไหนเจอด๊องที่นั่น ก็เราเพื่อนกันนี่ครับ  อยู่ที่โรงเรียนเราก็ไม่ได้คุยกันมากนัก....ก็เพราะว่าตกดึกเราคุยกันทุกคืนนี่ครับ....ไม่รุว่าคุยอะไรกันนักหนา...นานสุดก็ 14 ชม.เอง...ยาวดีมั้ยล่ะครับ
       
      ตอนนี้ด๊องกลายมาเป็นสมาชิกของกลุ่มไปแล้วครับ และพวกเราทั้ง 7 คน จะมีกิจกรรมพิเศษ เวลาเรียนวิชา ที่เป็นห้อง lab คือการเขียนจดหมายครับ ตอนแรกก็แค่ฉีกกระดาษมาเขียนตอบโต้กัน หลังๆก็ซื้อกระดาษลายๆมาเขียน เล่นอะไรเป็นเด็กๆว่ามั้ยครับ บ้างก็เขียนเพลง แต่งกลอนสดกันบ้าง ด่ากันบ้าง แกล้งงอนง้อกันบ้าง มันก็เพลินดีอ่ะครับ
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      ความรู้สึก....ที่เปลิ่ยนไป
       
      เวลาผ่านไปนานแค่ไหนผมก็จำไม่ได้หรอกครับ คงประมาณเดือนนึงหลังเปิดเทอม ผมมีความรู้สึกแปลกๆ
      ผมรู้สึกว่า ด๊องน่ารัก ทั้งๆที่ตอนนี้เรียกว่าเราสนิทกันมาก มาเรียนก็เจอกันทุกวัน ตกดึกก็โทรคุยกันทุกคืน
      นี่ผมกำลังชอบเพื่อนตัวเองใช่มั้ยครับ....แต่โดนนิสัยส่วนตัวที่ผมจะไปแสดงออกกันคนที่ผมชอบ...ผมเลือกที่จะไม่บอกด๊อง.....
       
      ทุกๆวัน เรายังคง....
       
      เขียนจดหมายส่งให้กัน....ทั้งๆที่เรานั่งติดกัน
       
      โทรศัพท์คุยกัน...ทั้งๆที่เราเจอกันทุกวัน
       
      เดินจับมือกัน...ทั้งๆที่ทางนั้นไม่ได้มีคนมากมายอะไร
       
      รอกลับบ้าน..ทั้งๆที่บ้านอยู่คนละทาง
       
      แต่ด๊องจะรู้มั้ย...
       
      ว่าบ่อยๆ...ที่ผมแอบกอดเค้า
       
      ว่าบ่อยๆ....ที่ผมชอบหยิกแก้มเค้าเล่น
       
      บ่อยๆที่อาจารย์ให้การบ้าน...ผมจะต้องทำมาให้ด๊องลอก....ทั้งๆที่ผมไม่เคยให้ใครลอก
       
      บ่อยๆที่ผมกลับบ้านช้า....อยู่เป็นเพื่อนเค้า...ทั้งๆที่ผมชอบกลับบ้านเร็ว
       
      ว่าทุกๆวัน...ผมจะแอบบอกความรู้สึกลงไปในจดหมาย
       
      ว่าทุกๆครั้ง...ผมจะส่งยิ้มให้เค้าถึงแม้เค้าจะไม่มองมา
       
      ว่าทุกๆคืน...ผมจะขอให้เค้าฝันดีก่อนอน
       
      ว่าทุกเวลา....ผมมีเค้าอยู่ในหัวใจ
       
      และ...
       
      ผมเจ็บปวดทุกครั้ง....ที่เค้าไปกับคนที่เค้ารัก....
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      ครั้งแรกกับน้ำตาและความเจ็บปวด
       
       
      ตอนนั้นเป็นช่วงเข้าหน้าหนาว จริงๆ อากาศก็ไม่ได้หนาวอะไรมากมาย...วันนั้นผมกันซองมินออกมาซื้อของที่ร้านเครื่องเขียนหน้าโรงเรียน แต่เพราคนในร้านเยอะมาก ผมจึงยืนรออยู่ที่หน้าร้านนั้น แต่ตอนนั้นสายตาของผมมันไปหยุดอยู่ที่คนสองคนที่เดินหัวเราะเคียงคู่กันมา....นั่น....ด๊องและคิบอม...ตอนนั้นสมองผมสั่งให้ผมหลบไปซะ...อย่าไปมองภาพนั้น...ขาของผมทำตามที่สั่งการเป็นอย่างดี..แต่สายตาของผมยังคงจับที่คนคู่นั้นจนทั้งสองคนเดินจากไป
       
      ....ผมอิจฉาคิบอมจริงๆ...
       
      คุณเคยดูในละครมั้ยครับ...ฉากที่พระเอกแอบมองตามนางเอกไปกับคนอื่นอย่างเจ็บปวด....ความรู้สึกนั้น...ผมเข้าใจมันก็ตอนนี้แหละครับ....ความรู้สึกที่เหมือนกับมีอะไรมาบีบหัวใจ....ผมพยายามไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา..ตลอดทางกลับบ้านมันช่างไกลกว่าทุกวัน...ทันที่ที่ผมถึงห้อง....ไม่รู้ว่าน้ำตามันมาจากไหน...ภาพนั้นมันยังติดตา...ทั้งๆที่ผมเองก็รู้ดี...รู้ดีทุกอย่าง...แต่ผมก็เจ็บไปแล้ว...ในคืนนั้นด๊องไม่โทรมาหาผม...แต่ก็ดีเพราะผมคงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน...นั่นคือ...ครั้งแรกกับน้ำตาและความเจ็บปวด....ในหน้าหนาวที่ผมไม่มีวันลืม
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      ความลับ
       
      ตอนนี้ก็ผ่านการสอบกลางภาคไปแล้ว....เพื่อนในห้องเราตกลงจะเล่นเกมส์กัน...มันคือ เกมส์ บัดดี้ ....
      (กติการคือ ต้องจับฉลากว่าเราจะได้เทคแคร์ใคร....เราจะต้องแอบเทคแคร์คนนั้นโดยที่ให้เค้าไม่รู้ว่าเราเป็นใคร....และก็จะมีคนมาเทคแคร์เราเหมือนกัน....สุดท้ายเราต้องทายให้ถูกว่าใครเทคแคร์เรา..เข้าใจกันมั้ยครับ)
       
      ผมจับได้เพื่อนคนอื่น....ที่ไม่ใช่ด๊อง...แต่ว่า....มีอยู่วันนึง...ที่ผมไปหาของให้บัดดี้ผม....ผมไปเจอโมบายดินเผารูปหัวใจสีแดง...ผมก็ซื้อมันติดมือกลับมาด้วย...ในตอนกลางวันที่ทุกคนไปกินข้าวผมขึ้นห้องเรียนมาก่อน...แล้วก็จัดการเอาโมบายนั้นวางไว้บนโต๊ะด๊องพร้อมกับจดหมาย1ฉบับ ลงชื่อจากบัดดี้....ผมแอบทำอย่างนี้เสมอ....ไม่มีใครสงสัย...หรือแครงใจ....ถึงมันจะไม่ได้อะไรตอบแทน....แต่ผมก็อยากจะทำ....และมันก็ยังคงเป็นความลับที่จะอยู่กับผมต่อไป....
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      ทำใจ
       
      ตอนนี้เวลาผ่านมาจนหมดเทอม...ผมพอจะรู้มาจากด๊องว่า เค้าเลิกกับคิบอมแล้ว....ถ้าเป็นคุณคงดีใจ.....แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น...สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนนั้นคือการเสียด๊องไป...ผมไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีคนนึงไป....ผมจึงคิดที่จะตัดใจเอง....ผมไม่อยากให้ด๊องรู้ความรู้สึกของผม...ผมเลือกที่จะสร้างกำแพงอากาศขึ้นมา....ในตอนแรกมันยากช่างยากลำบาก...แต่การจะตัดใครออกไปจากใจมันไม่ใช่เรื่องง่าย...ผมเองก็รู้....แต่อย่างน้อยให้ความรู้สึกที่ผมมีให้ด๊องน้อยลงบ้างก็ยังดี......ผมใช้เวลาในช่วงปิดเทอมทำใจให้ได้....เรายังคงโทรหากันบ้างแต่ไม่ทุกวัน...การห่างกันแบบนี้มันทำให้ผมทำใจได้ง่ายขึ้น...ที่เหลือก็แค่รอวันที่เราจะเจอกันอีกครั้งเท่านั้นเอง..
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      เปิดเทอมม.6
       
      ตอนนี้เพื่อนๆผมมันกำลังจับคู่เพื่อนในห้องกันเอง....ผมเองก็เฉยๆ...แต่แล้ว..
       
      “เอ๊ะ...สองคนนี้นั่งด้วยกันด้วยนี่...นั่นแน่..ฮยอก...ด๊อง”
      “อะไรของพวกแก” ผมอยากจะบีบคอเพื่อนผมให้ตาย..มันไปรู้จากที่ไหนมาว่ะ...ไม่นานเพื่อนๆก็รู้กันเกือบหมดห้อง....แต่ยังดีนะที่ผมตัดใจจากด๊องไปก่อนแล้ว...แต่ผมก็ยังกลัวความรู้สึกของด๊องกลัวว่าเค้าจะไม่ชอบ....มันอาจทำให้เราห่างเหินกัน...ผมคิดไปต่างๆนานา...และที่สำคัญผมกลัวเพื่อนอีกคนที่ผมก็รู้ดีว่าเค้าก็ชอบด๊อง...แต่ด๊องไม่ชอบเค้า...ผมกลัวว่าด๊องจะทำกับผมอย่างนั้น
       
      แต่เราก็ยังคุยกันปกติ...ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง...ในสายตาคนอื่นเราเหมือนเป็นคนพิเศษของกันและกัน....เพาะอย่างนี้มั้ง...เพื่อนๆถึงได้แซวกัน...แม้แต่เพื่อนๆในกลุ่มของผมเอง
       
      +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.
       
      แล้ววันนี้มันก็มาถึง....
       
      วันนี้เรานั่งคุยโทรศัพท์กันเหมือนเคย....อยู่ด๊องก็ถามมาว่า
       
      “ฮยอกชอบด๊องหรอ…เราไม่รู้หรอกนะ...จนพวกนั้นแซวกันน่ะ”ซักพัก...ผมไม่รุจะพูดอะไรดี..จะปฏิเสธหรือยอมรับ...ความจริงผมเองก็ไม่เคยบอกรักใครเลย...ผมจึงตัดสินใจ
       
      “ถ้าเราบอกว่าใช่ล่ะ” ผมตอบไปแค่นั้น ผมไม่รุจะพูดอะไรจริงๆ ตอนนั้นผมพร้อมจะรับชะตาชีวิตที่จะเกิดแล้ว..แต่ด๊องก็ทำให้ผมอึ้งอีกครั้ง..
       
      “ด๊องดีใจนะ...ที่คนที่ชอบด๊องคือฮยอก...เราไม่เสียใจเลย...เพราะอย่างน้อยด๊องก็ได้เจอกันคนที่ด๊องจะสามารถคุยได้ทุกเรื่องอย่างสบายใจ...ด๊องสามารถเปิดใจกับฮยอกได้ทุกเรื่อง...ด๊องไม่เคยรู้สึกดีกับใครอย่างนี้มาก่อนเลย...ฮยอกเป็นมากกว่าเพื่อน เรียกว่าเป็นเพื่อนคนพิเศษของด๊องเลย” ไม่รู้ตอนไหนที่น้ำตาผมมันไหลลงมา ความรู้สึกมันปนกันมั่วไปหมด ดีใจที่ได้เป็นคนพิเศษ แต่ก็เสียใจที่เป็นได้แค่นั้น
       
      “เราดีใจนะที่ด๊องรู้สึกดีกับเรางั้น...เราอยากให้ด๊องฟังคำของเรา...เราชอบด๊องนะ....เราไม่เคยพูดคำนี้กับใครเลย...ด๊องเป็นคนแรกที่ได้ยิน....แล้วอาจจะไม่มีใครได้ยินมันอีกแล้วก็ได้” ผมพูดออกไปตามที่ผมคิด
      “ทำไมอ่ะ...เราเชื่อว่าวันนึงฮยอกจะต้องได่เจอคนดีๆแน่ๆ...เพราะฮยอกเป็นคนดี....เชื่อเราซิ” แล้วเราก็เปลี่ยนเรื่องคุยกัน....แต่ทุกบทสนทนามันยังอยู่ในใจของผมไม่จางหาย....ตอนนั้นผมเกลียดคำว่า “เพื่อนคนพิเศษ” กับคำว่า “คนดี” ที่สุด...สุดท้ายผมก็เป็นได้แค่นี้...
       
      เรายังคงคุยกันเหมือนเดิม...จนวันที่เราจบการศึกษาเราจากกันด้วยรอยยิ้ม...ยังติดต่อกันบ้างแล้วแต่โอกาส...แต่ตอนนี้ผมกลับมาคิดอีกทีผมไม่เกลียดคำว่“เพื่อนคนพิเศษ” กับคำว่า “คนดี” แล้วหล่ะครับ เพราะการที่เราจะได้เป็นคนพิเศษของใครอย่างจริงใจมันเป็นเรื่องยาก....เราควรจะดีใจมากกว่าไม่ใช่หรอ...
       
      มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับด๊อง...เราแค่สองคน… ผมเลือกที่จะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป...ถึงแม้มันจะไม่สมหวัง..แต่คนๆนี้คือคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า  “รัก”...ที่ไม่ใช่แค่ “ชอบ” หรือความรู้สึก “หลง”...หากจะให้นิยามถึง “ด๊อง”  ผมจะนิยามว่า...ความรู้สึกและคิดถึง...
       
      คุณคิดว่าไงครับ....เรื่องของผม...คุณคิดว่าผมโง่...หรือเปล่าที่ไม่บอกความรู้สึกไป...คิดว่าผมโง่หรือเปล่า..ที่เจ็บอยู่คนเดียว....หรือคิดว่ามันไร้สาระ...ไม่มีใครทำได้ขนาดนั้นหรอก
       


      คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า...

      ...............
      ...........
      .....

      แต่คุณเชื่อเถอะ....เพราะโชคชะตาเล่นตลกกับเราเสมอ...





      ขอบคุณที่มาอ่านกันนะ....

      โดยเฉพาะคำติชมขอบคุณมากๆเลยจ้า

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×